รถมือสอง
วิธีเลือกรถมือสอง อันดับแรก ต้องยอมรับก่อนว่า รถต้องมีจุดตำหนิอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน เพราะเคยผ่านการใช้งานมาแล้ว แต่จุดตำหนินั้น ไม่ควรมีผลต่อการขับขี่หรือความปลอดภัย หากเป็นเรื่องของความสวยงาม มันแก้ไขกันได้
ดังนั้นการเลือกรถมือสอง ควรเน้นไปที่จุดที่จะส่งผลถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง เรื่องความสวยงามและราคาค่อยเอามาประกอบกัน
ซึ่งในการเลือกซื้อรถมือสองนั้น พอจะมีวิธีเลือกและจุดสังเกตง่ายๆ ดังนี้
1 โฟกัสรุ่นรถที่ต้องการ เพื่อเราจะได้หาข้อมูลได้ชัดเจนขึ้น หากไม่โฟกัสรุ่น ยี่ห้อรถ ประเภทรถ มันก็ยาก เพราะเราก็จะเข้าไปดูแบบไม่มีจุดหมาย อาจจะทำให้คล้อยตามแรงเชียร์ของเซลล์ และสุดท้ายก็ได้รถที่เราไม่ต้องการ
แนะนำให้โฟกัสรุ่นที่ต้องการสัก 1-2 รุ่น เพื่อเราจะได้หาข้อมูลว่ารถรุ่นนี้ ปีนี้ สีนี้ ราคาอยู่เท่าไหร่ เพื่อนำมาเปรียบเทียบ และรถรุ่นนี้มีข้อดีข้อเสียยังไง มันจะทำให้เรามีข้อมูลเบื้องต้นในการเลือกซื้อรถมือสองได้
2 ตรวจสอบสภาพภายนอก เป็นจุดเริ่มต้นของการเลือกซื้อรถมือสอง เพราะเป็นสิ่งที่เรามองเห็นสิ่งแรกเลยคือ ตัวรถและส่วนประกอบต่างๆ สังเกตดูว่ามีจุดบกพร่องตรงไหน ประตูเปิดปิดเป็นยังไง รีโมตรถยังใช้การได้ไหม ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ดอกยาง ไฟต่ำ ไฟสูงใช้การได้ไหม ที่ปัดน้ำฝนยังดีอยู่ไหม เบาะมีรอยฉีกขาด กระจกมีรอยแตกร้าว หรือมีรอยบุบชนเสียหายตรงไหน เครื่องเสียง แอร์ ยังทำงานปกติอยู่หรือเปล่า ส่วนประกอบเหล่านี้สำคัญในการขับขี่รถยนต์ ถึงจะเป็นรถมือสองก็ตาม
3 ดูทะเบียนรถ เพื่อให้แน่ว่ารถคันนี้เป็นรถมือสองที่มาโดยถูกต้องตามกฎหมาย ควรสังเกตที่จดทะเบียนเริ่มต้น ดูผู้ครอบครองว่าครองมากี่คนแล้ว เป็นรถของบริษัท หรือรถของบุคคลทั่วไป ถ้าเป็นรถบริษัท สภาพอาจจะเยินกว่ารถบุคคลทั่วไป เพราะไม่ค่อยรักษาสภาพรถ และเปลี่ยนมือขับบ่อย ข้อมูลเหล่านี้เราเอามาประกอบการตัดสินใจได้ทั้งหมด และเพิ่มเติมคือดูประกันภัยรถยนต์ว่าใกล้หมดหรือยัง ถ้าเราซื้อไปเราต้องต่อทันทีเลยไหม หรือทางเต้นท์รถจะต่อให้ ดูเพื่อเอามาต่อรองได้
4 ทดสอบเครื่องยนต์และระบบต่างๆ ข้อนี้ถือว่าเป็นหัวใจของการเลือกซื้อรถยนต์มือสองเลยก็ว่าได้ ถ้าเราไม่มีความรู้ความชำนาญ ควรหาคนที่ไว้ใจและรู้เรื่องเครื่องรถยนต์ไปด้วยสักคน เพื่อช่วยให้คำแนะนำ
ควรทดสอบเครื่องยนต์จริง โดยการสตาร์ทและทดลองขับจริง และสังเกตดูว่า สตาร์ทติดง่ายไหม เสียงเครื่องยนต์เป็นยังไง มีการสะดุดหรือเปล่า ทดสอบเร่งเครื่อง ทดสอบระบบเบรก ระบบการทำงานของไฟเลี้ยว ไฟสูงไฟต่ำ ที่ปัดน้ำฝน ว่ายังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่ไหม ต่างๆเหล่านี้เป็นข้อมูลในตัดสินใจเด็ดขาดว่าควรจะซื้อรถมือสองคันนี้ไหม
5 เปิดฝากระโปรงรถตรวจภายใน เพื่อดูว่ามีรอยสนิมจับ หรือรอยรอยสึกกร่อนเสียหายอื่นๆอีกไหม และให้สังเกตตรงท่อและสายพาน ว่ามีรอยฉีกขาดหรือเปล่า หม้อแบตเตอร์รี่มีรอยรั่วซึมไหม และทดสอบดูน้ำมันเครื่องด้วย ถ้าข้นและดำปี๋แสดงว่าเจ้าของรถไม่ค่อยรักษาสภาพเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์เสื่อมเร็ว
6 ดูราคาให้เหมาะสมกับท้องตลาด ที่สำคัญเลยคือต้องไม่แพงกว่าท้องตลาด ซึ่งเราสามารถเปรียบเทียบราคารถมือสองตามเว็บไซต์รถมือสองต่างๆได้ แต่ถ้าผู้ขายเรียกราคาเกินจากนี้ เราต้องพิจารณาความเหมาะสมและความต้องการ และนำข้ออื่นๆมาประกอบการพิจารณาด้วย อย่าลืมว่ารถมือสองราคาลดลงทุกปี หากเราคิดจะขายในอนาคตก็ต้องขายตามราคาท้องตลาด ซึ่งลดลงทุกปี
7 ดูร้านทีมีบริการหลังการขายดี ซึ่งข้อนี้สำคัญไม่แพ้ข้ออื่นเลย เพราะว่า หลังจากที่เราซื้อรถมือสองไปแล้ว อาจจะมีปัญหาจุกจิกตามมา ซึ่งเราก็อยากให้เต้นท์รถมือสองช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ หรือสามารถเปลี่ยนคันใหม่ได้ ถ้ายังซื้อไปไม่นาน การเลือกเต้นท์รถมือสองที่มีบริการหลังการขายดี ก็จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ให้เราได้
8 ดูเอกสารการซื้อขายให้ครบถ้วน การซื้อรถมือสองต้องตรวจเอกสารให้ดี ให้ครบถ้วน มีหนังสือสัญญาซื้อขายที่ถูกต้อง มีสำเนาบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมหลักฐานของรถ และตรวจดูรหัสเครื่องยนต์ เลขทะเบียนรถยนต์ กับคู่มือและสัญญาซื้อขายด้วย ว่าตรงกันไหม เพื่อไม่เกิดปัญหาและข้อผิดพลาดในภายหลัง
9 การชำระเงิน เมื่อมีการวางมัดจำ เงินดาวน์ หรือการชำระงวด ก็ควรเก็บใบเสร็จไว้เป็นอย่างดี เพราะในหลายเคส มีปัญหาเราชำระครบแต่ไฟแนนซ์แจ้งว่าเรายังมียอดค้างชำระ ถ้าเรามีใบเสร็จเก็บไว้ครบถ้วน เราก็จะเอาเป็นหลักฐานในการยืนยันได้ อย่าชะล่าใจ เพราะเคยเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว กันไว้ดีกว่าแก้
ถึงแม้ว่าเราจะตรวจสอบรถมือสองก่อนซื้ออย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วก็ตาม แต่บางปัญหาก็อาจถูกซ่อนไว้ ซึ่งมักจะปรากฏหลังจากที่เราซื้อมาแล้ว เราก็ต้องเตรียมรับมือ และตกลงกับเต้นท์รถให้ดี ว่าถ้าหากเกิดกรณีต่างๆจะต้องดำเนินการอย่างไร และที่สำคัญการเลือกรถมือสอง อย่าใจร้อน และตัดสินใจเลือกจากรูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว เดี๋ยวจะต้องมานั่งกุมขบับอีกหลายปี
หัวใจของการเลือกรถมือสอง คือ “ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม”